บทที่3 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การแก้ไขข้อความและย่อหน้า |
|
1.
การแก้ไขข้อความ |
|
|
1.1
การย้ายและการคัดลอกข้อความ |
|
1.การย้ายข้อความให้คลิกเลือกข้อความที่ต้องการจะย้าย |
|
2. คลิกคำสั่งแก้ไข >
ตัด หรือคำสั่ง <ctrl>+<x>หรือทูลบาร์ ตัด |
|
3. คลิกตำแหน่งที่จะวางข้อความ |
|
|
4. คลิกคำสั่ง แก้ไข
>วาง หรือ <ctrl>+<v>หรือ ทูลบาร์ วาง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
5. การคัดลอกข้อความให้คลิกเลือกข้อความ |
|
6.เลือกคำสั่ง แก้ไข> คัดลอก หรือ <ctrl>+<c>หรือทูลบาร์ คัดลอก |
|
7. คลิกคำสั่ง แก้ไข>วาง หรือ <ctrl>+<v> หรือ ทูลบาร์ วาง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
8.ใน power piont 2003 ได้สร้างคลิปบอร์ดทาสก์เพน
ไว้สำหรับบรรจุข้อความที่จะย้ายหรือคัดลอก |
|
ไว้ได้สูงสุด24ข้อความโดยสามารถเรียกด้วยคำสั่งแก้ไข >ออฟฟิศคลิปบอร์ด.จะได้บานหน้าต่างงาน
ดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
1.2 การเปลี่ยนแบบตัวอักษร |
|
|
แบบอักษร
(Font) เป็นการปรับเปลี่ยนลักษณะตัวอักษรรูปแบบต่างๆ
ให้เหมาะสมกับเนื้อหาการนำเสนอ คือ |
|
1.คลิกระบายข้อความที่ต้องการจะเปลี่ยนแบบอักษร |
|
|
2.เลือกคำสั่ง รูปแบบ > แบบอักษร |
|
|
3.จะได้หน้าต่างแบบอักษร ดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
4.เลือกตัวเลือก แบบอักษร
ลักษณะแบบอักษรขนาดตัวอักษร และสีตัวอักษร |
|
5.เลือกแบบอักษรลักษณะพิเศษ เช่น ขีดเส้นใต้ ตัวยก ตัวเงา |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
แบบอักษรใน
power piont มีให้เลือกทั้งแบบอักษรภาษาไทยและภาษาลาติน โดยปกติ |
|
จะกำหนดภาษาไทยไว้เป็นแบบมาตรฐาน |
|
|
1.3 การแก้ไขข้อความในตัวยึด (Placehold) |
|
|
การแก้ไขข้อความในตัวยึด(placehold)
ที่สไลด์โดยตรง ใช้ในกรณี่ที่ |
|
|
-
ข้อความใหญ่เกินกว่าที่จะมองเห็นได้ทั้งหมด |
|
|
-
ภายในสไลด์มีภาพกราฟิกที่อาจจะบังข้อความ จำเป็นจะต้องย่อหรือปรับภาพให้เหมาะสม |
|
-
ในกรณีที่ต้องการแก้ไขสีพื้นและต้องการแสดงข้อความให้เด่นชัดขึ้น |
|
|
ิ
- การเปลี่ยนสี ขนาด เงา และสไตล์ของตัวอักษร |
|
|
ข้อความและตัวยึดมักจะเกี่ยวข้องหรือโยงกัน
ผู้ใช้สามารถคลิกที่เส้นขอบของตัวยึด |
|
ให้เป็นแฮนเดิลขึ้นมา
โดยถ้าคลิกเลือกข้อความตัวยึดก็จะแสดงแฮนเดิลขึ้นมา |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การแก้ไขข้อความในตัวยึด มีวิธีการทำดังนี้ |
|
1. การย้ายข้อความขึ้นด้านบนหรือลงด้านล่าง
ให้คลิกที่รายการด้านบนข้อความที่จะย้าย |
|
2. ลากเมาส์เลื่อนขึ้น
หรือลงจะปรากฏเส้นประวิ่งตามเคอร์เซอร์ |
|
|
3. ถึงตำแหน่งที่ต้องการแล้วปล่อยเมาส์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การแก้ไขข้อความในตัวยึด มีวิธีการทำดังนี้ |
|
|
1. การย้ายข้อความขึ้นด้านบนหรือลงด้านล่าง
ให้คลิกที่รายการด้านบนข้อความที่จะย้าย |
|
2. ลากเมาส์เลื่อนขึ้น
หรือลงจะปรากฏเส้นประวิ่งตามเคอร์เซอร์ |
|
|
3. ถึงตำแหน่งที่ต้องการแล้วปล่อยเมาส์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
4.
การลบข้อความในตัวยึดให้คลิกที่ขวามือของข้อความแล้วกดแป้น <Delete> หรือแป้น |
|
5. การย้ายตัวยึด
ให้คลิกค้างไว้ที่เส้นขอบของตัวยึด แล้วลากเมาส์ |
|
|
6. การคัดลอกตัวยึดให้คลิกเลือกที่ตัวยึดแล้วคลิกคำสั่ง แก้ไข> คัดลอก การวางตัวยึดให้คลิกคำสั่ง
แก้ไข > วาง |
|
7. การเปลี่ยนขนาดตัวยึดให้คลิกที่ปุ่มแฮนเดิลแล้วลากเมาส์การเปลี่ยนขนาดตัวยึด |
|
|
ไม่ใช่การเพิ่มขนาดตัวอักษร |
|
|
8.
การค้นหาคำหรือข้อความ ให้คลิกคำสั่ง แก้ไข>ค้นหา จะได้หน้าต่างสำหรับค้นหาพิมพ์ข้อความ |
|
ที่ต้องการค้นหา แล้วคลิกปุ่มคำสั่ง ค้นหาถัดไป |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
9. คลิกที่ปุ่ม แทนที่ จะได้หน้าต่างสำหรับแก้ไข และแทนที่ แล้วคลิกคำสั่ง แทนที่ทั้งหมด |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
(หมายเหตุ :
การคันหาและแทนที่ไม่สามารถใช้กับอักษรศิลป์ (WoedArt) ได้) |
|
1.4 การแก้ไขรูปร่างอัตโนมัติ (AutoShapes) และเท็กซ์ (Text Boxes) |
|
ข้อความในรูปร่างอัตโนมัติและเท็กซ์บ็อกซ์มีลักษณะเช่นเดียวกับตัวยึด เมื่อพิมพ์ข้อความลงในเท็กบ็อกซ์ เท็กซ์บ็อกซ์จะขยาย |
|
ออกตามขนาดข้อความทที่พิมพ์ หรือเวลาลบข้อความที่พิมพ์หรือเวลาลบข้อความเท็กซ์บอกซ์ก็จะย่อเข้าตามความเหมาะสมโดยอัตโนมัติ |
|
อย่างไรก็ตาม
ในรูปร่างอัตโนมัติบางอย่างอาจจะมีการปรับข้อความให้เหมาะสม บางข้อความ |
|
|
อาจจะเกินจากกรอบที่กำหนด
จำเป็นจะต้องปรับให้เหมาะสม |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
การแก้ไขข้อความในรูปร่างอัตโนมัติ มีวิธีการทำ ดังนี้ |
|
|
|
1.คลิกจวาที่รูปร่างอัตโนมัต |
|
จะได้ เมนูลัด |
|
|
|
2.เลือกคำสั่ง จัดรูปแบบรูปร่าง |
|
|
อัตโนมัติ จะได้หน้าต่าง ดังนี้ |
|
|
3.คลกคำสั่ง ข้อความที่มีการ |
|
|
ตัดคำในรูปร่างอัตโนมัติ หรือ |
|
|
4.คลิกคำสั่ง ปรับขนาดรูปร่าง |
|
|
อัตโนมัตให้พอดีกับข้อความ |
|
|
5.เสร็จแล้วคลิก ตกลง |
|
|
ข้อความจะจัดให้พอดีกับรูปร่างอัตโนมัติ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
1.5 การแก้ไขเวิร์ดอาร์ต (WordArt) |
|
เวิร์ดอาร์ต(WordArt)หรืออักษรศลป์
ใน PowerPoint คล้ายกับใน Word คือ ถ้าต้างการแก่ไขข้อความ
ให้ดับเบิลคลิกที่ข้อความจะได้ดับเบิลคลิก |
|
ที่หน้าต่าง
ดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
1.คลิกระบายข้อความ แล้วพิมพ์ข้อความใหม่ |
|
2.คลิกเลือกแบบอักษร
และขนาดตัวอักษร |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
3.เลือกลักษณะแบบอักษรเป็น ตัวหนา หรือตัวเอน |
|
4.เสร็จแล้วคลิก ตกลง |
|
1.6 การเพิ่มสัญลักษณ์ |
|
สัญลักษณ์
หมายถึง ตัวอักษรพิเศษที่ไม่สามารถพิมพ์ด้วยการพิมพ์ปกติ แต่จะใช้ในบางกรณีเช่น
¥ © ©™ และเป็นต้น |
|
การเพิ่มสัญลักษณ์
มีวิธีการทำ
ดังนี้ |
|
|
|
1.คลิกตำแหน่งที่จะแทรกสัญลักษณ์ |
|
|
2.คลิกที่คำสั่ง แทรก>สัญลักษณ์.... |
|
|
(insert>symbolpower piont)จะเปิดไดอะล็อกบ็อกซ์ ดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
3.คลิกเลือกฟอนต์ที่
windings ปกติจะเป็นฟอนต์
symbol |
|
ี้ 4.คลิกเลือกสัญลักษณ์ที่ต้องการ |
|
5.หรือเลือกสัญลักษณืที่เพิ่งใช้ล่าสุดที่รายการด้านล่าง |
|
6.เสร็จแล้ว คลิกปุ่ม แทรก |
|
7.สัยลักษร์จะปรากฏที่สไลด์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
1.7 การใช้ตัวเลือกการแก้ไขอัตโนมัติ(AutoCorrect) |
|
การแก้ไขอัตโนมัติ (AutoCorrect) เป็นคุณสมบัติของ power point
ที่ใช้สำหรับแก้ไขคำผิดโดยอัตโนมัติเวลาพิมพ์ข้อความผิดจะมีการแสดง |
ข้อความที่ถูกต้องให้ |
|
|
การเลือกตัวเลือกการแก้ไขอัตโนมัติ มีวิธีการทำ ดังนี้ |
|
|
1.คลิกเลือกคำสั่ง เครื่องมือ>ตัวเลือกแก้ไขอัตโนมัติ |
|
|
2.จะได้ไดอะล็อกบ็อกซ์ ดังนี้
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
3.คลิกเลือกรายการสำหรับแก้ไขอัตโนมัติ
5 รายการ คือ |
|
|
*
แก้ไขอักษรนำที่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ 2 ตัว(correc two initial
capitale)เปลี่ยนตัวอักษรสองตัวแรกของคำให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ |
|
*
อักษรตัวแรกของประโยชน์เป็นตัวพิมพ์ใหญ่(capitalize first letter of sentences)
นิยมใช้ภาษาอังกฤษกรณีที่เริ่มต้นประโยค |
|
หรือกล่าวถึงระยะเวลา |
|
|
*
อักษรแรกของเซลล์ในตารางเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ (capitalize first letter of table
cells) เปลี่ยนตัวอักษรตัวแรกของประโยค |
|
ในเซลล์ให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ |
|
|
*
อักษรตัวแรกของชื่อวันเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ (capitalize name of day)
เปลี่ยนตัวอักษรตัวแรกของวันที่ให้เป็นตัวใหญ่อัตโนมัติ |
|
* แก้ไขกรณีการกดปุ่ม capd lock key โดยบังเอิญ(correct accidentals use of caps
key) เปลี่ยนตัวอักษรให้เป็นแบบเดิม |
|
ในกรณีที่power
poin กำหนดให้เป็นแบบมาตรฐาน |
|
|
4.ตัวเลือกรายการ
แทนที่ข้อความขณะพิมพ์ เป็นการกำหนดข้อความให้แทนที่คำสำหรับคำ
หรือข้อความที่ยากหรือคำย่อเป็นคำเติม |
|
เช่น
ศธ.ย่อมาจาก กระทรวงศึกษาธิการ
พิมพ์ที่คำว่าศธ.ในช่อง แทนพิมพ์คำว่ากระทรวงศึกษาธิการ ในทรวงศึกษาธิการ |
|
ในช่อง ด้วย เสร็จแล้วคลิก ตกลง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
5.เมื่อพิมพ์คำว่า ศธ. power
point จะแก้ไขคำให้เป็น กระทรวงศึกษาธิการโดยอัตโนมัติ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
6.เมื่อชี้เมาส์ไปที่คำซึ่งได้สร้างการแก้ไขอัตโนมัติไว้
เช่น กระทรวงศึกษาธิการ ตรงตัวอักษรตัวแรก ( ก)
จะมีกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ |
|
สีม่วงปรากฏขึ้นใต้ตัวอักษร
เลื่อนเมาส์ไปยังกรอบดังกล่าว แล้วคลิกจะได้ตัวเลือกสำหรับแก้ไขรูปแบบอัตโนมัติ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
*
เปลี่ยนกลับไปเป็น (change back to)เปลี่ยนคำเต็มกลับไปเป็นคำย่อเหมือนเดิม |
|
*
หยุดการแก้ไขอัตโนมัติ (stop automatically correcting)ไม่แก้ไขคำที่กำหนด |
|
*
ควบคุมตัวเลือกการแก้ไขอัตโนมัติ (control autocorrect option)
แสดงไดอะล็อกบ็อกซ์การแก้ไขอัตโนมัติ |
|
1.8 การใช้ปุ่มSmart Tages |
|
สมาร์ทแท็ก(Smart Tages)
เป็นปุ่มขีดเส้นใต้สีม่วงที่ปรากฏอยู่ใต้ตัวอักษร
เมื่อเลื่อนเมาส์ไปยังสมาร์ทแท็กจะปรากฏปุ่มและคลิกที่ปุ่มนั้น |
|
จะปรากฏข้อความขึ้นมา |
|
|
การปรับเลี่ยนตัวเลือกสมาร์ทแท็ก มีวิธีการทำ ดังนี้ |
|
|
1. คลิกที่คำสั่ง เครื่องมือ > ตัวเลือกการแก้ไขอัตโนมัติ..จะได้ไดอะล็อกบ็อกซ์ การแก้ไขอัตโนมัติ ให้คลิกที่แท็บ
สมาร์ทแท็ก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2. คลิกที่ตัวเลือก ทำเครื่องหมายข้อความด้วยสมาร์ทแท็ก |
|
|
3. คลิกเลือก
เช็คบ็อกซ์ที่ต้องการในช่อง ตัวช่วยจำ |
|
|
4.
หากต้องการสร้างสมาร์ทแท็กเพิ่มเติมให้คลิกที่ปุ่ม สมาร์แท็กเพิ่มเติม |
|
|
5.
จะเป็นการเชื่อโยงไปยังโฮมเพจ
www.officesmarttages.comสามารถเรียกใช้สมาร์ทแท็กอื่นๆได้ |
|
2. การสร้างและจัดรูปแบบย่อหน้า (Paragraph) |
|
ย่อหน้า หรือ Paragraph ประกอบด้วย
ระยะกั้นหน้ากั้นหลัง การตั้งแท็บ การจัดวางตัวอักษรหรือข้อความ
และระยะห่างระหว่างบรรทัด |
|
แม้ว่าการสร้างงานนำเสนอด้วย PowerPoint
จะไม่ได้พิมพ์ข้อความยาว ๆ เหมือน Word
แต่ก็ต้องมีการจัดรูปแบบย่อหน้าให้สวยงาม น่าสนใจ |
|
2.1
คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกันย่อหน้า |
|
ในการจัดย่อหน้ามีคำศัพท์พื้นฐานที่ใช้กันทั่วไป
ดังนี้ |
|
|
1.ขอบกระดาษ (Margin)หมายถึง
ระยะห่างระหว่างขอบของพื้นที่ทำงานกับข้อความ ถ้าเป็นตัวยึดหมายถึง
ระยะห่างระหว่างขอบของ |
|
ตัวยึดกับข้อความ |
|
|
2.การเยื้อง (Indent)
ระยะที่เยื้องข้อความจากขอบซ้ายไปขวา |
|
|
3.การเยื้องบรรทัดแรก (First line
indent)ระยะที่บรรทัดแรกของย่อหน้าจะเยื้องกับข้อความอื่นในย่อหน้า |
|
4..การเยื้องลอย (Hanging indent) ระยะที่บรรทัดแรกห่างจากบรรทัดอื่น ๆ
ในย่อหน้า |
|
5.กั้นหน้า (Tab) ระยะที่เคอร์เซอร์หยุดเมื่อกดแป้น <Tab> |
|
|
6.จัดชิดซ้าย (Left-aligned)
จัดให้ทุกบรรทัดชิดซ้าย |
|
|
7.กึ่งกลาง (Centered) จัดทุกบรรทัดอยู่กึ่งกลาง |
|
|
8.จัดชิดขวา (Right aligned) จัดทุกบรรทัดชิดขวา |
|
|
9.ชิดขอบ (Justified)
จัดข้อความทั้งซ้ายและขวามือให้เสมอกัน |
|
|
10.ระยะห่างบรรทัด (Line
spacing) ระยะที่แต่ละบรรทัดในย่อหน้าห่างกัน แบ่งเป็นบรรทัดก่อนและหลัง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2.2
การใช้ไม้บรรทัด (Ruler) |
|
ไม้บรรทัด (Ruler) ในโปรแกรม PowerPoint
เป็นเครื่องมือสำหรับจัดรูปแบบข้อความ ซึ่งมีทั้งไม้บรรทัดแนวตั้งและแนวนอน |
|
ซึ่งมีวิธีการทำดังนี้ |
|
|
|
|
1.การเรียกไม้บรรทัดให้คลิกที่ คำสั่ง มุมมอง> ไม้บรรทัด |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2.จะได้ไม้บรรทัดดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
3.เมื่อคลิกที่ตัวยึดข้อความ ไม้บรรทัดจะแสดงกั้นหน้า
กั้นหลัง และแท็บต่าง ๆ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
4.การจัดรูปแบบข้อความย่อหน้าของ PowerPoint ไม่เหมือน Word เพราะข้อความในPowerPoint จะอยู่ในตัวยึดซึ่งในหนึ่งสไลด์ |
|
อาจจะมีหลายตัวยึด
ดังนั้น แต่ละตัวยึดจะมีย่อหน้าแตกต่างกันจึงมีไม้บรรทัดสำหรับจัดย่อหน้าเฉพาะของแต่ละตัวยึด ซึ่งบนไม้บรรทัด |
|
จะประกอบด้วย |
|
|
1.ตัวเยื้องบรรทัดแรก (First Line Indent marker)
ใช้สำหรับย้ายข้อความบรรทัดแรกไปด้านซ้ายหรือด้านขวา |
|
2.ตัวเยื้องซ้าย (Left Indent marker)
ใช้ย้ายข้อความไปมาได้ทั้งซ้ายและขวา ยกเว้นบรรทัดแรก |
|
3.ตัวเยื้องลอย (Hanging Indent marker)
ใช้ย้ายข้อความทั้งบุลเล็ตและตัวอักษรยกเว้นบรรทัดแรก |
|
2.3 การตั้งแท็บ (Tabs) |
|
การตั้งแท้บโดยปกติ PowerPoint จะกำหนดแท็บมาให้โดยอัตโนมัติ เมื่อกดแป้น <Tab> เคอร์เซอร์จะเลื่อนไปยังตำแหน่งที่ตั้งแท็บไว้ |
|
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ PowerPoint สามารถตั้งแท็บเองได้ ดังนี้ |
|
|
|
|
1. คลิกเลือกข้อความที่ตัวยึด |
|
|
2. คลิกเลือกแท็บที่ต้องการบนปุ่มแท็บของไม้บรรทัด |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
3. คลิกตำแหน่งที่จะตั้งแท็บ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
4.คลิกเมาส์ที่หน้าข้อความ แล้วกดแป้น <Tab> ข้อความจะเลื่อนไปยังตำแหน่งแท็บ |
|
2.4 การจัดวางข้อความ (Align Text) |
|
การจัดวางข้อความแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ การจัดวางข้อความด้วยการตั้งแท็บ และการจัดข้อความด้วยทูลบาร์จัดรูปแบบ ดังนี้ |
|
|
|
1. การจัดวางข้อความด้วยการตั้งแท็บมี
4 แบบ ดังนี้ |
|
|
|
|
ตำแหน่ง |
|
ไอคอน |
|
คำอธิบาย |
|
|
|
ซ้าย |
|
|
|
วางข้อความด้านซ้ายของทศนิยม |
|
|
กลาง |
|
|
|
วางข้อความตรงกลางปุ่มแท็บ |
|
|
|
ขวา |
|
|
|
วางข้อความด้านขวาของแท็บ |
|
|
|
ทศนิยม |
|
|
|
วางข้อความตรงกับทศนิยม |
|
|
|
|
|
|
2. การจัดข้อความด้วยทูลบาร์จัดรูปแบบ มีตัวเลือก ดังนี้ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
จัดชิดซ้าย
(Lift-Align) คลิกที่ข้อความ และคลิกปุ่มจัดชิดซ้าย |
|
|
กึ่งกลาง
(Center)
คลิกที่ข้อความแล้วคลิกที่ปุ่มกึ่งกลาง |
|
|
จัดชิดขวา (Right-Alight)
เลือกข้อความแล้วคลิกที่ปุ่มจัดชิดขวา |
|
|
กระจาย (Justify)
เลือกข้อความแล้วคลิกที่ปุ่มกระจาย |
|
|
2.5
การจัดระยะห่างระหว่างบรรทัด (Line Spacing) |
|
การกำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัดมีวิธีการจัด 2 แบบ คือ ระยะห่างของบรรทัดภายในย่อหน้าและ ระยะห่างระหว่างสองย่อหน้า |
|
มีวิธีการจัด ดังนี้ |
|
|
1. การจัดระยะห่างภายในย่อหน้า ใช้ในกรณีที่ต้องการปรับข้อความในตัวยึด เท็กซ์บ็อกซ์หรือ รูปร่างอัตโนมัติให้มีช่วงห่างที่เหมาะสม |
|
โดยไม่ต้องปรับขนาดตัวอักษร ให้คลิกเลือกข้อความและเลือกคำสั่ง รูปแบบ > ระยะห่างบรรทัด |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2. คลิกเลือกคำสั่ง ระยะห่างบรรทัด..... |
|
3. เลือกระยะห่างเป็น บรรทัด หรือพอยท์ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
4. คลิกเลือกคำสั่ง แสดงตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบตัวอย่างก่อนใช้งานจริง |
|
5. คลิกปุ่ม ตกลง |
|
|
6.
ตัวอย่างระยะห่างบรรทัดในย่อหน้า |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
7. การกำหนดระยะห่างระหว่างสองย่อหน้า ทำได้โดยการกำหนดตัวเลือก ก่อนย่อหน้า และ หลังย่อหน้าที่ไดอะล็อกบ็อกซ์ระยะห่างบรรทัด |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
8. คลิก แสดงตัวอย่าง |
|
9. คลิก ตกลง |
|
|
10. ตัวอย่างการจัดย่อหน้าที่สร้างเสร็จแล้ว |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|